จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้
การต่อความต้านทานแบบขนานประกอบด้วยความต้านทานตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป สามารถต่อได้โดยการนำต้นของความต้านทานทุกตัวมารวมกันเป็น
1 จุด และนำปลายของความต้านทานทุกตัวมารวมกันอีก
1 จุด จากนั้นนำจุดต่อทั้งสองจุดไปต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า
ตามภาพด้านล่าง
ในการต่อความต้านทานแบบขนาน
เราจะสามารถหาค่าต่างๆ ในวงจรได้ ดังนี้
1. ความต้านทานรวม ( R t)
ความต้านทานรวมของวงจรขนานจะมีค่าลดลงไปจากเดิม
เมื่อเรานำความต้านทานมาต่อขนานเพิ่มไปในวงจร ดังนั้นหากเราต่อความต้านทานเพิ่มเข้าไปในวงจรแบบขนานจะยิ่งทำให้ค่าความต้านทานรวมมีค่าลดลงไปเรื่อยๆ โดยความต้านทานรวมของวงจรจะมีค่าน้อยกว่าตัวต้านทานที่มีค่าน้อยที่สุดที่ต่ออยู่ในวงจร
ซึ่งจะสามารถหาความต้านทานรวมแบบขนาน
ได้ ดังนี้ (วงจรตามภาพด้านบน)
1. 1 เปลี่ยนค่าความต้านทานของทุกตัว เป็นค่าความนำ
ความนำคือส่วนกลับของความต้านทาน มีหน่วยเป็นซิเมนส์ แทนค่าด้วย S
ความนำใช้สัญลักษณ์แทนด้วย G
ดังนั้นจะได้ ความนำของตัวต้านทานแต่ละตัว ดังนี้
G 1 = 1 / R 1
= 1 / 10 = 0. 1 S
G 2 = 1 / R 2
= 1 / 20 = 0. 05 S
G 3 = 1 / R 3
= 1 / 30 = 0. 033 S
G 4 = 1 / R 4
= 1 / 40 = 0.
แรงดันไฟฟ้าแบบขนาน
- ชุดคิทวงจรไฟฟ้ากระแสตรง - วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม, วงจรแบบขนาน, กฎของโอห์ม - PhET
- EP3 วงจรผสมแบบอนุกรม-ขนาน - YouTube
- วงจรตัดรูปคลื่นแบบไดโอดขนาน
- แรงดันไฟฟ้าแบบขนาน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ กลุ่มวิจัยการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแนวใหม่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (สนับสนุนโดยสำนักงานเลขานุการกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ)
วงจรไฟฟ้าแบบขนาน | apichitsc078
Φ 2, φ 3 คือฟลักซ์และเอส 1, S 2 ส 3 คือการฝืนของเส้นทางขนาน BA, ADCB และ AFEB ตามลำดับ
ใบความรู้
รายวิชา งานอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
เรื่อง การต่อวงจรไฟฟ้าแบบต่างๆ
การต่อวงจรไฟฟ้า
ตามปกติวงจรไฟฟ้าใด ๆ
จะมีความเปลี่ยนแปลงและคุณสมบัติต่อกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าแตกต่างกันไป ตามแต่
วิธีการต่อวงจรนั้น ๆ และตามการเปลี่ยนแปลงตัวต้านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้านั้นด้วย
ซึ่งเรามีวิธีการต่อวงจรไฟฟ้าได้ 3 แบบ คือ
1. การต่อแบบอนุกรม ( Series
Circuit)
2. การต่อแบบขนาน (Parallel
3. การต่อแบบผสม ( Compound
Circuit) 1. วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หมายถึง การนำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาต่อเรียงลำดับกันไป
โดยนำปลายด้านใดด้านหนึ่งของอุปกรณ์ตัวที่หนึ่งมาต่อกับอุปกรณ์ตัวที่สอง
จากนั้นนำปลายที่เหลือของอุปกรณ์ที่สอง ไปต่อกับอุปกรณ์ตัวที่สาม
และต่อในลักษณะที่เรียงกันไปเรื่อย ๆ จนถึงอุปกรณ์ตัวสุดท้ายให้ต่อปลายที่เหลือเข้ากับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า
ภาพที่ 6. 77 การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม
ที่มา:
2. วงจรไฟฟ้าแบบขนาน หมายถึง
การนำอุปกรณ์ไฟฟ้าตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมาต่อเรียงแบบขนานกัน
โดยนำปลายด้านเดียวกันของอุปกรณ์แต่ละตัวมาต่อเข้าด้วยกัน
แล้วต่อปลายของอุปกรณ์แต่ละตัวที่ต่อกันแล้วนั้นเข้ากับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า
ภาพที่ 6.
วงจรแบบขนาน
EP3 วงจรผสมแบบอนุกรม-ขนาน - YouTube
2V 100Ah (ใครยังไม่เข้าใจ Ah ไม่เป็นไรนะ) มีความจุแบตเตอรี่ 320Wh (P = I x V) ในการต่ออนุกรม สิ่งที่อยากให้สังเกตุก่อนคือ volt หรือแรงดันของระบบ
เราต่อสาย – เข้า + ทุกๆก้อนตามภาพด้านล่าง และเอาสายต่อขั้วบวกของแบตเตอรี่ก้อนแรก (ด้านซ้ายมือ) ไปเข้าวงจร และต่อขั้วลบของแบตเตอรี่ก้อนสุดท้ายไปเข้าวงจร (ด้านขวามือ) แบบนี้เราจะเรียกว่าวงจรอนุกรมนะ
ซึ่งเวลาเราต่ออนุกรมเราจะเอา volt ของแบตเตอรี่แต่ละก้อนไปรวมกันกลายเป็น volt ของระบบ เหมือนกับตัวอย่างในรูปด้านบน แบตเตอรี่แต่ละก้อนมีแรงดัง 3. 2V พอเราต่ออนุกรมรวมกัน 3 ก้อน จะมี volt รวม = 3. 2V x 3 = 9.
วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน การประยุกต์สำหรับโซล่าเซลล์ off-grid
- แจก รูป ด รา ฟ 914 ภาพ
- ขาย รถ เก่า จอด ทิ้ง
- เลข นาย หลวง ปู่ทวด