ไม่ใช้ article ตามหลัง kind
of, sort of, type of, make of, brand of, variety of,
species of, เช่น this brand of cigarette
12. Verb ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง
คัดเลือก คือ appoint, choose, elect, select หรือ make
ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ดำรงตำแหน่งที่มีเพียงตำแหน่ง
ตำแหน่งเดียว ไม่ต้องใช้ article หน้าตำแหน่งนั้น เช่น
-
He was made President. 13. ชื่อกีฬาทุกชนิด
ตัวอย่าง ประโยคที่ใช้ Article a, an และ the
1. There is a plate one the table. มีจานอยู่บนโต๊ะ 1 ใบ
2. I am a student. ฉันเป็นนักเรียน
3. There
is a little salt in the bottle. มีเกลืออยู่เล็กน้อยในขวด
4. My Mother goes to the market to buy some fruits. แม่ของฉันต้องการไปตลาดเพื่อซื้อผลไม้
5. What is in the kitchen? มีอะไรอยู่ในครัว
6. A: What do you want for breakfast? คุณต้องการอะไรเป็นอาหารเช้า
B: I prefer a hamburger
with lots of ketchup. ฉันต้องการแฮมเบอร์เกอร์ราดซอสมาก
7. Do you want ketchup on the pie, too? คุณต้องการราดซอสลงบนพายด้วยไหม
8. There's a banana in the bag. มีกล้วยอยู่ในถุง 1 ผล
9. What does she need for a salad?
20 ครูสอนภาษาอังกฤษยอดเยี่ยม 2022 ― BestKru
May I interrupt? เอ็กซกิวส มี เม ยาย [... ]
29
Classroom Language: ภาษาอังกฤษในห้องเรียนสำหรับครู การเกริ่นเข้าสู่บทเรียน
ประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคในการกล่าวอะไรสักเล็กน้อยก่อนเข้าสู่บทเรียนครับ มาดูเลยครับว่าจะพูดว่าอย่างไรได้บ้าง introduction Let's talk about …………. เล็ทส ทอค คะเบ้า ….. (เรามาสนทนาเกี่ยวกับ……กันเถอะ) Have you finished [... ]
Jun
โรงเรียน หนองไผ่
คำ article แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
A. Indefinite Article ได้แก่
a,
an ( ใช้กับคำนามนับได้ที่ไม่เจาะจง)
B. Definite Article ได้แก่ the ( ใช้กับคำนามนับได้ที่เจาะจง)
A. Indefinite Article ได้แก่ a, an
หลักการใช้ a, an
1. ใช้ an นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o, u หรือออกเสียงสระไม่ว่าจะเขียนขึ้นต้น
ด้วยพยัญชนะก็ตามเช่น
an
elephant, an hour, an umbrella, an apple
2. ใช้ a,
an นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่นับได้เสมอที่มีความหมายเป็น"หนึ่ง"
She
has a dog. Give
me an apple. This is a durian. 3. ใช้ a,
an นำหน้าคำที่บอกอาชีพ
I am a
student. I
want to be a teacher. 4. ใช้ a,
an นำหน้านามเอกพจน์ที่แปลเป็นต่อ... ( หน่วย)
Oranges cost
50 baht a kilogram. 5. ใช้ a กับการเจ็บไข้ได้ป่วยเช่น
a
stomachache, a headache, a fever
have eaten papaya salad at lunch and now I have a stomachache. 6. ใช้ a,
an ในประโยคอุทานตามหลัง what เช่น
What is this? It's a pear. เราจะไม่ใช้ a, an กับสิ่งต่อไปนี้
1. กับคำนามที่นับไม่ได้ ( uncountable nouns)
2. ไม่ใช้นำหน้าชื่อวิชา ชื่อกีฬา ชื่อประเทศ
ชื่อเมือง ชื่อมหาวิทยาลัย
3.
ภาพ/วิดีโอประกอบ
สัปดาห์นี้มีทักษะหลายอย่างที่ได้จากการเรียนในห้องและการทำกิจกรรมต่างๆตามที่อาจารย์มอบหมายสนุกในการสร้างสรรค์สื่อใหม่ๆให้ออกมาอย่างสวยงามและดีที่สุด
สัปดาห์ที่ 6
1. Individual Quiz: writing 2. Pair Quiz: Reading and pronunciation (from the uploaded document - not in a class) 3. Grammar: there is/there are, wh- questions, prepositions and pronouns. สัปดาห์นี้ได้เรียนออกเสียงและ ไวยากรณ์ คำบุพบท และสรรพนาม เรียนการใช้ there is/there are, wh- questions และออกแบบข้อสอบให้กับเด็กปฐมวัยตามใบงานที่อาจารย์มอบหมายให้
มีทักษะในการใช้ there is/there are, wh- questions มากเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้ในการสอนเด็กการถาม ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ การใช้คำบุพบทให้ถูกต้อง และฝึกตั้งคำถาม และการออกแบบข้อสอบให้กับเด็กปฐมวัยด้วยคำสั่งง่ายๆ 3. ภาพ/วิดีโอประกอบ
สำหรับสัปดาห์นี้เรียนรู้การใช้ there is/there are, wh- questions คำบุพบท เพื่อที่สามารถจะนำไปใช้กับประโยคง่ายๆ การออกแบบข้อสอบที่ง่ายและถูกต้องกับเด็กอนุบาลในอนาคต
สัปดาห์ที่ 7
สัปดาห์นี้เรียนที่ห้องคอมสอบการออกแบบข้อสอบตามคำสั่งที่อาจารย์ได้มอบหมายให้
ได้รับทักษะและความรู้ในเรื่องของการออกแบบข้อสอบให้กับเด็กอนุบาลที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
สำหรับสัปดาห์นี้ได้สอบการออกแบบข้อสอบให้กับเด็กปฐมวัยได้ทักษะในการออกแบบที่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ได้จริง ในอนาคต
สัปดาห์ที่ 8
1.
ทักษะที่ได้/ความรู้ที่ได้
ได้รู้ถึงการออกแบบในแต่ละห้องการวัดขนาดโมเดลที่สร้างขึ้นจะต้องถูกต้องตามหลักเกณฑ์ การออกแบบเฟอนิเจอร์ที่เหมาะสมการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆภายในบ้านที่จะสามารถนำไปใช้สอนเด็กปฐมวัย
การออกแบบห้องต่างๆภายในบ้าน
วิทยากรจากคณะสถาปัตย์
สาธิตการออกแบบห้องต่างๆ
ออกแบบห้องที่ได้รับมอบหมาย คือห้องครัว
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่มีความสนุกสนานและตื่นเต้นมากเป็นการปฏิบัติด้วยกันเป็นกลุ่มได้รับความรู้มากมายหลากหลายแตกต่างจากสัปดาห์อื่นๆที่เรียนมาเพราะว่าเป็นสัปดาห์ที่มีวิทยากรพิเศษมาร่วมบรรยายและสาธิตการทำห้องต่างๆด้วยในกิจกรรมครั้งนี้เพิ่มพูนประสบการณ์และทักษะในอีกด้านค่ะ
สัปดาห์ที่ 4
1. Present about a room in the house 2. Grouping the words from the given document. 3. Practice how to pronounce the words and sentences.
ภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
ให้นักศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ 1. หลักการ แนวคิด เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย 2. ความหมาย ประโยชน์ ของภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย 3. ความสำคัญของภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
1.
- รวมบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม "ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง"
- ภาษาอังกฤษสำหรับครูปฐมวัย
- ภาษา อังกฤษ สำหรับ ครู การ์ตูน
- แช ท ไอ โฟน xs
- ภาษา อังกฤษ สำหรับ ครู วิทยาศาสตร์
Education: university
เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของประเทศอังกฤษ โดยมีหัวข้อหลักๆ คือ สาขาวิชา รวมถึงการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย
1. สาขาวิชา
โดยสาขาวิชาที่มีการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยมีดังนี้
- แพทยศาสตร์ - จิตวิทยา
- วิศวกรรม - รัฐศาสตร์
- สถาปัตยกรรม - ปรัชญา
- เกษตรศาสตร์ - สังคมวิทยา
- นิติศาสตร์ - เศรษศาสตร์
2. การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย
ถ้าต้องการเรียนในมหาวิทยาลัย คุณต้องสอบผ่านในโรงเรียนเมื่อตอนอายุ 17 ซึ่งการเรียนในมหาวิทยาลัยต้องมีการจ่ายค่าเล่าเรียน โดยบางคนอาจจะมีการกู้จากธนาคาร หรือเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีการจัดการเรียนการสอนสามปี บางสาขาวิชาก็สีปี่ และมีบางสาขา เช่นแพทยศาสตร์ มีการเรียนการสอนห้าปี
Education: school
เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนของประเทศอังกฤษ โดยมีหัวข้อหลักๆ คือ ระบบของโรงเรียน ตารางเรียน และวิชาที่เรียนในโรงเรียน
1. ระบบของโรงเรียน
อายุ 3 ปี เข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล
อายุ 5 ปี เข้าเรียนโรงเรียนประถม
อายุ 11 ปี เข้าเรียนโรงเรียนมัธยม โดยเรียกนักเรียนในช่วงอายุนี้ว่า Pupils
อายุ 16 ปี เข้าเรียนโรงเรียนฝึกอาชีพ (อาชีวะ)
อายุ 18 ปี ออกจากโรงเเรียน และเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนฝึกอาชีพชั้นสูง
2.
Adjective
Adjectiv e คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามหรือสรรพนามเพื่อที่จะบอกลักษณะเพิ่มเติมของคำที่จะขยายนั้นว่าเป็นอย่างไร
คำ Adjective (คำคุณศัพท์) นี้เราสามรถแยกออกได้เป็น 8 ประเภ ทคือ
1. Descriptive Adjectives คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้บอกลักษณะและคุณสมบัติต่างของคำนามว่ามีลัษณะอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น good, bad, tall, shot, black, fat, thin, fat, thin, clever, foolish, poor, rich, brave, cowardly, pretty, ugly และอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น
Tony is a black rich man. (โทนี้เป็นผู้ชายผิวเข้มสีที่รวย)
2. Demonstrative Adjectives คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้ระบุถึงนามต่างๆ เช่น
The, These, This, That, Those, Such, The same, A, An, Any, Another, One, Some, Such, Other
That boy is crying. (เด็กผู้ชายคนนั้นร้องไห้)
3. Distributive Adjectives คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้ในการแยกนามต่างๆออกจากกัน เช่น each (แต่ละ), every (ทุกๆ), either…or (ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither…nor (ไม่ทั้งสอง)
Every boy in this school loves playing football. (เด็กผู้ชายทุกๆคนในโรงเรียนนี้ชอบการเล่นฟุตบอล)
Neither Jim nor Joe can drive a plane. (จิมกับโจไม่สามารขับเครื่องบินได้ทั้งสองคน)
4.
(พวกเขาคือกลุ่มแรกที่มาที่พื้นที่นี้)
He gets the second price of the photography contest in Bangkok this year. (ปีนี้เขาได้รับรางวัลที่สองของการประกวดภาพถ่ายในกรุงเทพ)
c. Multiplicative Adjective คือ คุณคำศัพท์ที่บอกความทวีคูณของนามเช่น double, triple, quadruple เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งาน
This year, the rice production is double because the weather is good. (ปีนี้ผมผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพราะว่าอากาศนั้นดี)
7. Possessive Adjectives คือ คุณศัพท์ที่ใช้ในการขยายนามเพื่อบอกความเป็นเจ้าของของนาม ได้แก่ my(ของฉัน), our(ของพวกเรา), your(ของคุณ), his(ของเขา), her(ของเธอ), its(ของมัน) และ their (ของพวกเขา)
ยกตัวอย่างการใช้งาน
My dog is five-year-old. (หมาของฉันนั้นอายุห้าขวบ)
8. Quantitative Adjectives คือ คุณศัพท์ที่ใช้ในการบอกปริมาณ เพื่อบอกให้ทราบว่ามีปริมาณเท่าไร มากน้อยเพียงใด แต่ไม่ได้บอกเป็นจำนวนที่แน่นอน ได้แก่คำดังนี้
a little/little (เล็กน้อย)
all (ทั้งหมด)
enough (เพียงพอ)
few /a few (น้อย)
many (มาก)
much (มาก)
no (ไม่มี)
some (บ้าง)
any (บ้าง)
whole (ทั้งหมด)
much (มาก – ใช้กับนามนับไม่ได้)
many (มาก – ใช้กับนามนับได้)
I have few dollars in my pocket.