เสื้อผ้าที่เราสวมใส่นั้นนอกจากจะแสดงออกถึงรสนิยมได้แล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัย รวมไปถึงความประณีตในการดูแลเสื้อผ้าของผู้ที่เป็นเจ้าของได้อีกด้วย คำแนะนำสำหรับวิธีการดูแลเนื้อผ้าชุดโปรดให้อยู่คงสภาพเหมือนใหม่อยู่เสมอ
1. ทำความรู้จักเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักเสื้อผ้ารวมถึงเนื้อผ้าชุดโปรดของคุณ เพราะแต่ละประเภทต้องการเอาใจใส่ การดูแลที่ต่างกันออกไป อาทิ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าสักหลาด ต้องทำความสะอาดด้วยการซักแห้ง หรือซักด้วยมือเท่านั้น
2. แบ่งทำความสะอาดตามประเภทของเนื้อผ้า เนื้อผ้าบางประเภทซักเครื่องได้ บางอย่างเน้นการซักด้วยมือเท่านั้น เรื่องของอุณหภูมิของน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันสามารถปรับอุณหภูมิความร้อนของน้ำจากเครื่องซักผ้าได้แล้ว เนื้อผ้าบางประเภทสามารถซักได้ด้วยน้ำเย็น เช่น ผ้าป่าน และเนื้อผ้าบางประเภทต้องการซักด้วยน้ำอุ่น เช่น ผ้าคอตตอน ผ้าเดนิม เป็นต้น ส่วนเนื้อผ้าผสมชนิดอื่น ๆ แม้ว่าจะซักด้วยเครื่องซักผ้าได้แต่ก็ต้องใส่ถุงซักเพื่อถนอมเนื้อผ้า รวมไปถึงการแยกซักเสื้อผ้าขาว และผ้าสี เพื่อป้องกันปัญหาสีตกที่อาจตามมา
3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดูแลถนอมเนื้อผ้าที่มีคุณภาพ นอกจากการที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้ตรงตามความต้องการของเนื้อผ้าแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มที่ช่วยในเรื่องการถนอมเนื้อผ้า และยังเพิ่มเสน่ห์ด้วยกลิ่นหอมสไตล์ฝรั่งเศสไปในคราวเดียวกันก็สำคัญไม่แพ้ใคร ด้วยผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De Paris สูตรเข้มข้นพิเศษ 6 เท่า Luxury French Perfume Style ที่ตอบโจทย์การดูแลอย่างมืออาชีพกับทุกเนื้อผ้า ด้วยเทคโนโลยีแคปซูลน้ำหอมที่เจาะลึกถึงเส้นใย มั่นใจว่าอ่อนโยนต่อผิว และไม่มีกลิ่นฉุน
4.
การดูแลรักษาเสื้อผ้า
7 วิธีถนอมเสื้อผ้าให้ดูใหม่และใช้ได้ยาวนาน เสื้อผ้าที่เราวื้อมานั้นเราก็คงไม่อยากให้โทรมหรือเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งโดยเฉพาะตัวไหนที่เราชอบหรือตัวที่เราซื้อมาแพงนั้นต้องดูแลรักษาดีเป็นพิเศษ เพราะเหตุนี้เราควรที่จะรู้วิธีในการทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ถูกต้อง และวิธีในการเก็บรักษา เพื่อให้เสื้อผ้าที่เราซื้อมานั้นใช้งานได้ยาวนาน ลองมาดูเคล็ดดีๆกันเถอะ
1. การแยกเสื้อผ้าก่อนซัก
นอกจากที่เราจะแยกซักระหว่างผ้าขาวกับผ้าสีแล้ว อย่างแรกที่ควรทำคือคัดว่าเป็นผ้าซักแห้งหรือผ้าซักน้ำ ตามความจริงแล้วเราควรจะแยกซักผ้าตามเนื้อผ้าอีกด้วย โดยการแยกผ้าหน้าและผ้าบางออกจากกันเช่น ผ้าชีฟอง ผ้าไหม ออกจากชุดสูท หรือออกจากยีนเป็นต้น ผ้าบางหรือผ้าที่เป็นขลุยควรจะใส่ไว้ในถุงตะข่ายเพื่อไม่ให้ชายขลุยพันกัน และเราควรที่จะกลับผ้าด้านในออกมาซักแทนผ้าด้านนอกเพื่อจะได้ไม่ให้ผ้าดูซีดเร็ว หรือเวลาที่เสื้อผ้าเสียดสีกันจนเป็นรอย จะได้มองไม่เห็น
2. เสื้อผ้าบางตัวต้องซักมือเท่านั้น
ผ้าบางชนิดนั้นต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยการแยกผ้าออกมาซักมือ ซึ่งผ้าพวกนี้จะเป็นผ้าบางมากๆอย่าง ผ้าชีฟอง ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน โดยการซักผ้าในน้ำเย็นและใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนๆ และนำมาตากลมไม่ให้โดนแดดจัด
3.
ใบความรู้ที่ 1. 3
เรื่องการเลือกใช้ ดููแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 รหัสวิชา ง 33106 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
การเลือกใช้ ดูแลรักษาเเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
มนุษยืต้องการสิ่งปกปิดร่างกายให้ความอบอุ่นและป้องกันสัตวืและแมลงจึงจำเป็นต้องมีสิ่งปกคุมร่างกายเพื่อสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ การแต่งกายของมนุษย์เกิดจากความสำคัญ
6 ประการ คือ
1. สภาพภูมิอากาศ การแต่งกายจะแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิอากาศของถิ่นที่อยู่อาศัย
ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นต้องใส่เสื้อผ้าที่หนาที่ทำมาจากหนังหรือขนสัตว์
เพื่อทำให้ร่างกายอยอุ่นแตต่ถ้าอยุ่ในบริเวณร้อนต้องสวมใส่เสื้อผ้าบาง
2. ศัตรูทางธรรมชาติ ในภูมิภาคเขตร้อนมนุษย์จะได้รับบความรำคาญจากสัตว์ปีกจึงใส่
กางเกงขายาวหรือใช้โคลนพอกร่างกายเพื่อป้องกันแมลง
3. การทำงานและการประกอบอาชีพ อาชีพบางอาชีพอาจมีอันตรายจึงใส่เสื้อผ้าที่ป้องกัน
อันตราย เช่นเสื้อผ้าที่ทนต่อสารเคมี ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อการซักรีดและทำความสะอาด
4. การรวมกลุ่มกันเป็นสังคม เ มื่อมนุษย์รวมกันต้องมีระเบียบวินัยกฏเกณฑ์โดยกำหนด
กฏเกณฑ์ในการแต่งกายเพื่อเป็นเอกลักษณ์แต่ละกลุ่มจนกายเป็นแต่งกายประจำชาติ
แต่งกายประจำองกรค์ ประจำชุมชน
5.
การเลือกเสื้อผ้าตามวัย
1. 1 ทารกและเด็กเล็ก สวมใส่ผ้าสีอ่อน ดูสะอาดตา เช่น สฟ้า สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน
สีเขียวอ่อน สีเหลืออ่อน
1. 2 วัยเด็กเล็กถึง 12 ปี เหมาะที่จะสวมใส่เสื้อผ้าสีอุ่น สีสดใส สะอาดตา ถ้าใช้สีตัดกันปริมาณร้อยละ 20-40 ควรใช้สีสดใสที่มมีในธรรมชาติ สีฟ้า สีน้ำทะเล สีของดอกไม้ใบหญ้า
1. 3 วัยรุ่น เป็นวัยที่มีความคิดเป้นอิสระ ชอบเฟ้อฝัน เบื่อง่าย ชอบแต่งตัวตามแฟชัั่น ตามดารา นักแสดง เพื่อให้เกิดจุดเด่น เสื้อผ้าจึงเป็นแบบสดุดตาตามมสมัยนิยมแต่ควรเเป็นแบบ
ที่สุภาพ ไมม่รัดรูป ไม่เน้นรูปร่างของผู้สวมใส่
1. 4 วัยหนุุ่มสาว ใช้สีได้ทุกสี ทั้งสีสด และสีเข้ม สีหม่น โดยดูว่าใช้ในโอกาสใด ควรเลือกให้เข้ากับสีผิว รูปร่างหน้าตา สวมใส่แล้วส่งเสริมบุคลิกภาพ
1. 5 วัยผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีทั้งสีอ่อน สีเข้ม สีหม่น เสื้อผ้าที่มีสีสันทำให้สดใส กระปี้กระเปร่า
สำหรับผู้สูงอายุที่ทำงานเลือกแบบสุภาพตกแต่งเล็กน้อยเพื่ให้สง่างามมสมวัยและบุคลิก
2. กาารเลือกเสื้อผ้าตามสีผิวและบุคลิกภาพ มีหลักในการเลือกดังนี้
2. 1 ผู้ที่มีผิวขาวสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้ทุกสี
2, 2 ผู้ที่มีผิวคล้ำควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีสีหม่น สีปนเทา และะสีร้อนเพราะจะทำให้มองดู
ผิวคล่ำมากขึ้นควรใช้สีอ่อนกว่าสีผิวเล็กน้อย
การเลือกเสื้อผ้าตามฤดูกาล มีหลักในการเลือกดังนี้
3.
การดูแลเสื้อผ้าลินิน | Somite
การคุมอุณหภูมิ
ความร้อนที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดรอยไหม้หรือผ้ากรอบ ดังนั้นควรคุมอุณหภูมิความร้อนตามเนื้อผ้า ผ้าบางไม่ให้เตาร้อนจัดและควรทดลงโดยการรีดบนผ้าที่เตรียมเอาไว้ทดลองก่อนเสมอ
4. เสื้อขนสัตว์หรือแปลกๆ
เสื้อที่เป็นเสื้อขนสัตว์หรือเป็นผ้าที่แปลกๆ หากนำไปซักปกติแล้วอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย โดยทั่วไปแล้วป้ายที่ติดอยู่ตรงคอเสื้อนั้นจะมีสัญลักษณ์ในการบ่งบอกว่าเสื้อผ้านี้ซักปกติได้ หรือควรจะซักแห้ง หากป้ายบอกว่าให้ซักแห้งเท่านั้น(Dry Cleaning Only) ก็นำไปซักแห้งเพื่อรักษาเสื้อผ้าไม่ให้เสียหาย หรือหากไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถามร้านซักแห้งที่เชียวชาญ เพื่อป้องกันการเสียหาย
5. ใช้ไม้ซีดาร์แทนลูกเหม็น
ลูกเหม็นนั้นถึงจะใช้ในการไล่แมลงได้ดีแต่ด้วยกลิ่นที่รุนแรงจึงทำให้มีกลิ่นติดเสื้อผ้าแถมยังซักออกยาก หากเราดมไปบ่อยๆอาจจะทำให้คลื้นไส้ เวียนหัวได้ การเปลี่ยนมาใช้ไม้ซีดาร์จึงป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีและเป็นของธรรมชาติ โดยการนำเอาแท่งไม้ซีดาร์ขนาดเล็กห่อทิชชู่วางไว้ในตู้ หรือสามารถเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์แทนก็ได้ หากให้ดีจริงให้เปิดประตูตู้เสื้อผ้าเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท
6. เก็บชุดโปรใส่ถุงคลุมเสื้อ
การที่เลือกเก็บเสื้อผ้าใส้ในถุงคลุมเพื่อไม่ให้ เสื้อผ้าไปเสียดสีกับเสื้อตัวอื่นๆและไม่ให้ไรฝุ่นมาเกาะเสื้อผ้าที่เรารัก หรือเศษไม้จากในตู้เกี่ยวเสื้อผ้าเราจนเสียหาย ถุงเสื้อนั้นไม่ควรที่จะปิดสนิท หากเป็นถุงพลาสสติกให้ตัดรอบๆให้มีรู เพื่อจะได้ถ่ายเทอากาศอีกด้วย
7.
- แสงทองลีฟวิ่งรูม ตรงข้ามโลตัสกระบี่ - ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ที่สุด ราคาถูกที่สุด คุณภาพดีที่สุดในจังหวัดกระบี่ บริการส่งฟรี
- โปรแกรม amanda accounting
- D max ปี 2005
- Vivo y91i โปร ais price
- 6 Tips วิธีการดูแลรักษาเนื้อผ้า – De Paris Thailand
- การ ดูแล รักษา ผ้า ภาษาอังกฤษ
- Olay power duo ราคา jib
- ผม สั้น ปิด หน้าบาน
- ล้อแท้ LENSO D1SR ขอบ 18นิ้ว สีดำเงามิ่งลิ่งก้านเงิน - ล้อแม็กกระบะ 18
- การดูแลผ้าลินิน - LINEN
- Huawei p9 สยาม โฟน review
- Nissan maxima ราคา for sale by owner
ขั้นตอนการซัก การทำความสะอาดผ้าไหมให้ดูใหม่อยู่เสมอ ควรซักด้วยน้ำยาซักแห้งชนิดอ่อน ถ้าเป็นน้ำยาซักแห้งที่ทำมาสำหรับผ้าไหมโดยเฉพาะก็จะดีมาก แต่ไม่แนะนำให้ซักผ้าไหมด้วยเครื่องซักผ้า เพราะจะทำให้ผ้าไหมยับมากและรีดยาก ควรซักผ้าไหมด้วยมือด้วยความนุ่มนวลและไม่ขยี้หรือบิดผ้าแรง ๆ เพราะจะทำให้ผ้าเสียทรง หากนำผ้าไหมลงน้ำแล้วไม่ควรแช่ไว้นาน โดยเฉพาะผ้าสีสด เช่น สีม่วง สีชมพูสด สีบานเย็น และโดยเฉพาะผ้าโทนสีเข้ม ๆ หลังจากซักเสร็จแล้วควรสลัดผ้าไหมให้คลายตัวและไม่ย่นก่อนนำตาก เมื่อผ้าแห้งจะทำให้รีดได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้ผ้าไหมไม่เสียทรงและยับง่าย
2. ขั้นตอนการตาก ขั้นตอนของการตากนั้น หลังจากทำการซักเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรสลัดผ้าเพื่อให้ผ้าคลายตัวแล้วนำไปตากในที่ร่ม หรือที่ที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ที่สำคัญพยายามเลี่ยงในบริเวณที่แดดจัด ๆ เพราะจะทำให้สีผ้าไหมซีดได้
3. ขั้นตอนการรีด ขั้นตอนในการรีดนั้น ก่อนรีดให้ฉีดพรมน้ำยารีดผ้าไหมให้ทั่ว และรีดด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ความร้อนที่เตารีดแต่ละชนิดกำหนดไว้ แต่สำหรับผ้าไหมพิมพ์ลายให้ลดความร้อนลงจากปกติประมาณ 1 – 2 ระดับ ถ้าผ้าไหมยับมากก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องเข็งในตูเย็นประมาณ 10 – 15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่ายและเรียบยิ่งขึ้น
Related posts
คุณสมบัติอันมีค่าของผ้าไหมไทย 1.
ความหมายและความสำคัญของการดูแลเสื้อผ้า - การดูแลเสื้อผ้า
การดูแลเสื้อผ้าผ้าลินิน
การซักเสื้อผ้าลินิน ควรซักด้วยมือ เพราะไม่ทําให้ผ้ายับ รีดง่าย และการซักผ้าลินินสีขาว ควรซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น และใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของเอนไซม์เพื่อช่วยขจัดคราบสกปรก
การซักผ้าลินิน
การซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังนี้
1. นําผ้าลินินแช่นํ้าสักครู่ยกขึ้นบีบเบา ๆ นําผ้าไปแช่ในนํ้าสารซักฟอกที่เตรียมไว้ แช่ไว้สักครู่เพื่อให้สารซักฟอกขจัดสิ่งสกปรก จากนั้นใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้นจากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบา ๆ ไม่ควรบิดผ้าแรง ๆ เพราะจะทําให้เกิดรอยยับ นอกจากนี้ยังใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
2. นําผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด 2-3 ครั้งจนหมดสารซักฟอก นําไปแช่ในอ่างนํ้า ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ ยกขึ้นไล่นํ้าออก
การตากเสื้อผ้าลินิน
ทําได้โดยนําผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน ตากแดดจัด แต่ไม่นานเกินไป แล้วผึ่งลมไว้พอหมาดจึงนําไปรีด
การรีดเสื้อผ้าลินิน
ทําได้โดยนําเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือผึ่งลมพอหมาดๆ ไปรีดโดยใช้ความร้อนสูง และให้รีดด้านใน เพื่อให้ด้านนอกเป็นมัน
การเก็บรักษาเสื้อผ้าลินิน
หลังจากรีดเสร็จแล้วให้แขวนกับไม้แขวน แล้วนําไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า
องค์ความรู้ผ้าไหมยกดอกลายพิกุล การดูแลรักษาผ้าไหมยกดอกลายพิกุล
นำผ้าไหมแช่น้ำหรืออบไอน้ำ เพื่อให่เนื้อผ้ามีความอยู่ตัวก่อนที่จะนำไปส่วมใส่ ซึ่งขั้นตอนสำหรับการดูแลผ้าไหมมีอยู่ 3 ขั้นตอน 1. ขั้นตอนสำหรับการซักผ้าไหม ซักด้วยน้ำยาซักแห้งชนิดอ่อน ไม่แนะนำซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ซักผ้าไหมด้วยมือและด้วยความนุ่มนวลและไม่ขยี้หรือบิดผ้าแรงๆ ไม่ควรแช่ผ้าไหมสีเข้มไว้นานจะทำให้สีผ้าตก หลังจากซักผ้าไหมเสร็จเรียบร้อยควรสลัดผ้าไหมให้คลายตัว
2. ขั้นตอนการตาก ควรสลัดผ้าให้คลายตัวแล้วนำไปตากในที่ร่มหรือที่มีแสงแดดอ่อนๆ ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเลี่ยงการแตกผ้าไหมในที่แดดจัด เพราะจะทำให้สีของผ้าไหมซีดและดูไม่สวยงาม
3. ขั้นตอนการรีดผ้าไหม ก่อนรีดให้ฉีดน้ำยาผ้ารีดไหมให้ทั่ว รีดโดยใช้ความร้อนที่เตารีดระดับไฟอ่อนปานกลาง และสำหรับผ้าไหมพิมลายให้ลดความร้อนลงจากปกติประมาณ 1-2 ระดับ ถ้าผ้าไหมยับมากก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติดนำไปแช่ นำไปแช่ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงนำออกมารีดได้
การซักผ้าไหม
การรีดผ้าไหม
- การ ลา ออก
- โหลด template ฟรี